โปรแกรมคืออะไร
ความหมายของ
โปรแกรมคือ บัญชีรายการ, รายการ, ระเบียบวาระ, สูจิบัตร ,แผน , การแสดง , วางวิธีการให้ (เครื่องคำนวณ) ทำงานเป็นขั้นๆ
ในชีวิตของเรา
เราอาจจะเคยมีคนถามว่า “วันนี้มีโปรแกรมจะไปไหน” แล้วเราก็อาจ ตอบว่า“ไปเรียน
เสร็จแล้วก็ไปดูหนัง” แบบนี้
ซึ่งคนถามถ้าได้ยินแบบนี้ก็ น่าจะเดาได้ว่า เราจะไปเรียนก่อน แล้วค่อยไปดูหนัง
จะเห็นได้ว่า คำว่าโปรแกรมมีความหมายว่า รายการ ระเบียบวาระ หรือ
การการทำงานเป็นลำดับขั้นก็ได้
ส่วนความหมายของ
โปรแกรมคอมพิวเตอร์ คือ
ชุดคำสั่งที่เป็นโปรแกรมภาษาที่เขียนขึ้นมาเพื่อให้คอมพิวเตอร์ทำงานได้ตรงตามต้องการ
โปรแกรมภาษา
โปรแกรมภาษาไม่ได้หมายถึง
โปรแกรมที่ทำหน้าที่ในการแปลภาษา หรือช่วยสอนภาษา แต่หมายถึง
ชุดคำสั่งที่จะทำให้คอมพิวเตอร์ทำงานตามที่เราต้องการ ที่เราเรียกโปรแกรมภาษาว่า ภาษา C ,ภาษา C++
,ภาษา Pascal จริงๆแล้วคือภาษาอังกฤษ
แต่จะแตกต่างกันก็ตรงที่
ในแต่ละโปรแกรมภาษาก็จะมีคำสั่งที่ใช้ในการทำงานไม่เหมือนกัน เช่น
ใน C++
cout << “Hello” ;
แบบนี้จะเป็นการแสดงข้อความ Hello ออกทางจอภาพ
ใน Pascal
Writeln(‘Hello’);
แบบนี้ก็จะเป็นการแสดงข้อความ Hello ออกทางจอภาพเหมือนกัน
จะเห็นได้ว่าใน C++ ใช้คำว่า cout แต่ใน Pascal ใช้ Writeln และเนื่องจากคำสั่งพวกนี้
คนที่ออกแบบพยายามจะออกแบบให้คล้ายภาษาที่คนอเมริกันใช้ในการดำเนินชีวิต
เราจึงเรียกชุดคำสั่งเหล่านี้ว่าโปรแกรม ภาษา
ระดับของภาษาคอมพิวเตอร์
แบ่งออกเป็น 3 ระดับคือ
1.ภาษาเครื่อง
เป็นภาษาที่ประกอบด้วยตัวเลขฐานต่างๆ โดยฐานอื่นจะถูกแปลงเป็นเลขฐาน 2 อยู่เสมอ เนื่องจากคอมพิวเตอร์ทำงานด้วยระบบอิเล็คทรอนิกส์
เมื่อมีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านแทนด้วย เลข 1 และจะแทนด้วยเลข 0 ถ้าไม่มีกระแสไฟฟ้าไหลผ่าน ถ้าเราจะใช้ภาษาเครื่องในการเขียนโปรแกรม
เราจำเป็นต้องมีความรู้เรื่อง Hardward อย่างดี
2.ภาษาระดับต่ำ
เป็นภาษาที่ได้มีการนำสัญลักษณ์มาแทนตัวเลขทำให้ จดจำได้ง่ายกว่า ภาษาเครื่อง
ภาษาระดับต่ำ ต้องมีการผ่านตัวแปรภาษาให้กลายเป็นภาษาเครื่องก่อนด้วย
ตัวอย่างภาษาระดับต่ำได้แก่ แอสแซมบลี
3.ภาษาระดับสูง
ในปัจจุบันนี้ถือว่าเป็นภาษาที่ใกล้เคียงภาษามนุษย์
มากที่สุดสะดวกต่อการเขียนโปรแกรมและง่ายต่อการเรียนรู้
การที่เราจะใช้ภาษาระดับสูงได้ต้องมี Compiler หรือInterpreter ก่อน C++ เป็นภาษาระดับสูงที่ใช้ Compiler ในการแปลภาษา
ระบบจำนวน
ระบบเลขฐาน 10
คือระบบจำนวนที่มนุษย์ทั่วไปใช้กัน
ประกอบด้วยตัวเลขทั้งหมด 10 ตัว คือ 0 ถึง 9 สาเหตุที่มนุษย์เราใช้ระบบเลขฐาน 10 นั่นเป็นเพราะมนุษย์เรามีนิ้วมือ 10 นิ้วถ้าหากมนุษย์เรามีนิ้วมือ 2 นิ้วเราก็อาจใช้เลขฐาน 2 แทน
ระบบเลขฐาน 8
คล้ายกับเลขฐาน 10 แต่จะแตกต่างกันก็ตรงที่มีการใช้เลขทั้งหมด 8 ตัวคือ 0 ถึง 7 เท่านั้น ในแต่ละหลักของ เลขฐาน 8 ถ้าเรานำมาคูณด้วย 8 ยกกำลัง ฐานของเลขนั้นเราก็จะได้เลขฐาน 10
เช่น
2778 = 2*82 +
7*81 + 7* 80
=
2*64 + 7*8 + 7*1
=128 +56+7
= 19110
ระบบเลขฐาน 16
ประกอบไปด้วย
ตัวเลข 10 ตัวคือ 0 ถึง 9 และตัวอักษรอีก 6 ตัวคือ A ถึง F รวมแล้วเลขฐาน16 จะใช้สัญลักษณ์ 16 ตัว
โดยที่ เลขฐาน 16 เลขฐาน 10
A 10
B 11
C 12
D 13
E 14
F 15
สาเหตที่เราจำเป็นต้องใช้ตัวอักษรในเลขฐาน 16 ก็เพราะว่าเพื่อให้แยกแยะออกว่านั่นคือเลขอะไร
ถ้าไม่ทำอย่างนี้เวลาเราเขียนจะดูสับสนมาก เช่น
10
แบบนี้เราจะไม่แน่ใจว่านั่นเป็นเลข 10 ในฐาน 16 หรือว่าคือเลข10(หลักแรกเป็น 0 หลักที่ 2 เป็น 1)
ถ้าเราจะทำให้เลขฐาน 16 แปลงเป็นเลขฐาน 10 เราก็ทำได้โดยให้เอาแต่ละหลัก
คูณด้วย16 ยกกำลัง ฐานนั้น
ระบบเลขฐาน 2
คือระบบเลขที่มีตัวเลขแค่ 2 ตัวเท่านั้นคือ 0 และ 1 ถ้าเราต้องการนำเลขฐาน 2 มาแปลงเป็นเลขฐาน 10 ก็ให้นำค่าของฐานนั้นมาคูณกับ 2 ยกกำลังฐานนั้น
เราก็จะได้ลขฐาน10 เข่น
1012 = 1 *
22 + 0 * 21 + 1 * 20
= 1 * 4 + 0 * 2
+ 1 *1
=
4 + 0 + 1
= 510
อัลกอริทึ่ม
เป็นภาษากรีก
ที่หมายถึงขึ้นตอนหรือวิธีการทำงาน ในการดำเนินชีวิตของเราก็ต้องมีอัลกอริทึ่ม เช่น
อัลกอริทึมของการใช้ตู้โทรศัพท์สาธารณะ
1.ยกหูโทรศัพท์ขึ้นแล้วฟังสัญญาณ
2.หยอดเหรียญ
3.คุย
4.วางสาย
อัลกอริทึ่มของการคำนวณเกรด
ในการคิดเกรดเราจะคิดโดยให้เงื่อนไขดังนี้
คะแนน เกรด
น้อยกว่า 50 0
ระหว่าง 50 ถึง 59 1
ระหว่าง 60 ถึง 69 2
ระหว่าง 70 ถึง 79 3
80 ขึ้นไป 4
อัลกอริทึ่มของการคำนวนเกรด
เราอาจจะเขียนเป็นข้อๆแบบนี้ก็ได้ โดยให้มีการทำงานตามลำดับเว้นแต่ว่าอัลกอริทึ่มในข้อนั้นมีการกำหนดว่าให้ไปทำงานที่ข้ออื่น
เราก็จะข้ามไปทำงานที่ข้อนั้น โดยไม่จำเป็นต้องเรียงตามลำดับ
1.รับข้อมูลคะแนน
2.ทำการตรวจสอบเงื่อนไขว่าน้อยกว่า 50 จริงหรือเปล่า
ถ้าจริงไปทำข้อ 3 ถ้าไม่จริงไปทำข้อ 4
3.เกรดเท่ากับ 0 ไปทำข้อ 11
4.ทำการตรวจสอบ ทำการตรวจสอบว่า น้อยกว่า 60 จริงหรือเปล่า ถ้าจริงไปทำข้อ 5 ถ้าไม่จริงไปทำข้อ 6
5.เกรดเท่ากับ 1 ไปทำข้อ 11
6. ทำการตรวจสอบ ทำการตรวจสอบว่า น้อยกว่า 70 จริงหรือเปล่า ถ้าจริงไปทำข้อ 7 ถ้าไม่จริงไปทำข้อ 8
7.เกรดเท่ากับ 2 ไปทำข้อ 11
8. ทำการตรวจสอบ ทำการตรวจสอบว่า น้อยกว่า 80 จริงหรือเปล่า ถ้าจริงไปทำข้อ 9 ถ้าไม่จริงไปทำข้อ 10
9.เกรดเท่ากับ 3 ไปทำข้อ 11
10 เกรดเท่ากับ 4
11. ออกจากการคำนวณ
ความหมายของการเขียนโปรแกรม
ในปัจจุบันถ้าเราจะสร้างโปรแกรมขึ้นมาเราก็ต้องพิมพ์โปรแกรมโดยใช้ Editor จากนั้นเราจึงจะใช้ Compiler ให้ Compile โปรแกรม เราอาจจะได้ Source code ของโปรแกรมจากทางinternet หรือจากแผ่น Flopy disk ที่คนอื่นส่งมาให้ก็ได้
แต่คนที่สร้างโปรแกรมนั้น ก็ต้องพิมพ์โปรแกรมอยู่ดี แล้วทำไมเราถึงเรียกขั้นตอนในการพิมพ์โปรแกรมว่าเขียนโปรแกรม
นั่นเป็นเพราะ
ในสมัยก่อนคนที่ต้องการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์
จะต้องใช้ ภาษาAssembly ก่อน บนกระดาษ
จากนั้นเมื่อได้มีการทดสอบจนแน่ใจว่าถูกต้องแล้ว จึงจะนำไปแปลงเป็นภาษาเครื่อง
จะเห็นได้ว่าเราใช้การเขียนในการสร้างโปรแกรมแทนที่จะเป็นการพิมพ์
ด้วยเหตุนี้เราจึงเรียกกันต่อมาว่าเขียนโปรแกรม แทนที่จะใช้คำว่าพิมพ์โปรแกรม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น